News:

SMF - Just Installed!

  • Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
Main Menu

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Kanchana

#1
ถ้าเกิดคุณกำลังคิดที่จะออกเดินทางหรือออกทริปไปต่างประเทศ โดยยิ่งไปกว่านั้นในแถบพื้นที่ยุโรปในฝันที่ใครหลายๆคนต้องการไปสักหนึ่งครั้งในชีวิต นี่คือจุดกำเนิดที่ดีเลย เนื่องจากว่าพวกเราได้รวบรวม 10 ประเทศในยุโรปที่น่าเที่ยวที่สุด มาแนะนำให้คุณได้เลือกตามสไตล์ที่ถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นแถวถูกใจเมืองคลาสสิก สถลาปัตยกรรมสุดอลังการ ธรรมชาติที่แสนสงบ หรือกิจกรรมเทศกาลสนุกๆให้ได้ลองเข้าร่วมและสัมผัสด้วยตัวคุณเอง รับรองว่าทุกประเทศมีเสน่ห์เฉพาะบุคคลที่ไม่เหมือนใคร และพร้อมมอบประสบการณ์และความประทับใจที่คุณจะไม่ลืม ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ลองมาเปิดใจ และดูไอเดียดีๆจากบทความนี้ได้เลย บางทีคุณอาจเจอ "ประเทศในฝัน" ที่ต้องการเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเดี๋ยวนี้เลยก็ได้

เลือกประเทศในยุโรปที่น่าเที่ยวให้เหมาะกับคุณ เลือกอย่างไรดี?
การได้เดินทางไปยุโรปนับว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่หาไม่ได้ในแถบเอเชียบ้านพวกเรา แต่การเลือกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆคน โดยยิ่งไปกว่านั้นมือใหม่ที่พึ่งเคยออกนอกประเทศครั้งแรก เพราะว่าประเทศในยุโรปที่น่าเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย แต่ก่อนที่จะเลือกว่าไปที่ไหน พวกเราอาจจะต้องมีดูและพิจารณาหลายๆปัจจัยก่อน เพื่อให้การเดินทางของคุณทั้งสนุก และตอบปัญหาความต้องการของคุณได้มากที่สุด ลองมาดูปัจจัยกลุ่มนี้ให้ครบก่อนตัดสินใจ แล้วคุณจะได้ทริปยุโรปในแบบที่ใช่และประทับใจที่สุด

วัตถุประสงค์ / เป้าหมายในการเดินทาง - เริ่มจากถามตัวเองก่อนเลยว่าต้องการไปเที่ยวแบบไหน ถ้าหากหลงรักธรรมชาติ ทิวทัศน์ภูเขา หรือสมุทรสาบสวยๆประเทศอย่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศนอร์เวย์ หรือไอซ์แลนด์คือตัวเลือกที่ตอบปัญหา แต่หากต้องการดื่มด่ำกับผลงานศิลป์ สโผลงปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ที่แท้จริง ต้องไม่พลาดประเทศอิตาลี ประเทศฝรั่งเศส และประเทศสเปน ส่วนสายแฟชั่นหรือคนถูกใจช้อป แนะนำประเทศที่มีของแบรนด์เนมให้เลือกมากมาย ได้แก่ ประเทศฝรั่งเศส หรืออังกฤษ รับรองได้ว่าช้อปสนุกจนถึงลืมเวลา และเงินในกระเป๋าอย่างแน่นอน

งบประมาณในการเดินทาง - ยุโรปขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่เที่ยวแพง แต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีตัวเลือกที่เหมาะกับทุกงบ หากงบไม่มาก ลองหลีกเลี่ยงประเทศที่มีค่าครองชีพสูงอย่าง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หรือประเทศกลุ่มนอร์ดิกไปก่อน แล้วหันไปเลือกประเทศแถบยุโรปตะวันออก ตัวอย่างเช่น เช็ก ประเทศโปแลนด์ หรือฮังการี แทนดูได้ ซึ่งที่เที่ยวก็สวยไม่แพงกัน แต่ราคาน่าคบและเข้าถึงได้กว่ามากมายเลย

ฤดูกาลและสภาพอากาศ - การเลือกช่วงเวลาให้เหมาะกับกิจกรรมที่คุณต้องการทำเป็นเรื่องสำคัญ ฤดูหนาวเหมาะกับคนที่ชื่นชอบในหิมะ เล่นสกีหรือเที่ยวตลาดคริสต์มาส ส่วนในฤดูร้อนก็ครื้นเครงไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้งและหาดสวยๆส่วนในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ตก อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการเดินเที่ยวรับลมชมทิวทัศน์แบบเพลิดเพลินๆพร้อมมองดอกไม้บานหรือใบไม้เปลี่ยนสีแบบเป็นกลางชาติที่สุด

ความสนใจส่วนตัว - บางคนอาจมีประเทศในดวงใจที่ต้องการไปสักหนึ่งครั้ง หรืออยากกลับไปซ้ำอยู่เรื่อยๆเพราะเหตุว่าหลงรักบรรยากาศ อาหาร หรือผู้คน หรือในขณะที่ใครบางคนถูกใจการค้นหาสถานที่ใหม่ๆที่ไม่ซ้ำจากเดิม จะเมืองเล็ก กลุ่มบ้านในหุบเขา หรือประเทศที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ก็ขึ้นกับสไตล์หรือความสนใจที่คุณถูกใจ เพราะว่าความสุขในการเดินทางมักเริ่มจาก "ความอยากไป" ก่อนเสมอนั่นและ

การเดินทางในประเทศ - ถ้าเกิดคุณไม่ขับรถ ระบบคมนาคมสาธารณะคือตัวเลือกที่ควรจะพิจารณา ด้วยเหตุว่ายุโรปหลายๆประเทศมีระบบรถไฟและรถบัสที่ดีมาก เดินทางง่าย สะดวกและครอบคลุมการเดินทางในเมืองใหญ่ทั้งหมด แต่ถ้าหากต้องการเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ ก็เลือกประเทศที่เหมาะกับการ Road Trip อย่างไอซ์แลนด์ หรือสแกนดิเนเวีย ก็จะฟินสุดๆ

ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อม - อย่าลืมเช็กข้อมูลข่าวสารสารหรือสถานการณ์ของประเทศที่จะไปก่อนเสมอ ทั้งเรื่องการเมือง ภัยธรรมชาติ หรือความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยว ด้วยเหตุว่าบางประเทศมีเหตุประท้วงบ่อย หรือบางพื้นที่ก็ขึ้นชื่อเรื่องขโมยล้วงกระเป๋า การตระเตรียมความพร้อมจะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้คุณไปเที่ยวได้อย่างสบายใจมากขึ้น

ระยะเวลาที่มี - เวลาที่คุณจะมีเป็นตัวระบุรูปแบบของทริป หากมีเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน แนะนำให้เที่ยวเล่นเพียงแค่ประเทศเดียวหรือเมืองใหญ่ที่เดินทางสะดวก จะได้ไม่เมื่อยล้าและเสียเวลากับการย้ายเมืองบ่อย แต่ถ้าเกิดคุณมีวันหยุดยาวก็วางแผนเที่ยวหลายประเทศหรือออกชานเมืองได้ จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น

แนะนำ 10 ประเทศในยุโรปที่น่าเที่ยว ที่น่าสนใจ ต้องลองไปสักหนึ่งครั้ง
ยุโรป เป็นดินแดนแห่งการท่องเที่ยวสำหรับใครหลายๆคน เพราะเหตุว่าเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งวัฒนธรรมเก่าแก่ ธรรมชาติสุดอลังการ เมืองสวยๆและอาหารอร่อย ซึ่งถ้าหากคุณกำลังวางแผนที่จะไปยุโรปสักหนึ่งครั้ง ลองมาเช็กดู 10 ประเทศในยุโรปที่น่าเที่ยวที่พวกเราคัดเลือกมาให้ดู ว่าจะมีที่ไหนตรงใจกับคุณบ้าง

ประเทศฝรั่งเศส - หากพูดถึงเมืองโรแมนติก หอพักไอเฟลในปารีสก็คงผุดขึ้นมาในใจทันที แต่ประเทศฝรั่งเศสมีมากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ สถลาปัตยกรรมสุดคลาสสิก หรือกลิ่นลาเวนเดอร์หอมๆจากแคว้นโพรวองซ์ ที่ทำให้ใครหลายๆคนต้องการกลับไปซ้ำ

อิตาลี - แดนแหล่งกำเนิดศิลป์และวัฒนธรรมยุโรปอย่างแท้จริง เต็มไปด้วยเมืองในฝันอย่าง โรม เวนิส ฟลอเรนซ์ เดินเที่ยวชมโคลอสเซียม ล่องเรือในคลองเมืองเวนิส หรือชมมหาวิหารกลาง สิ่งเหล่าเป็นประสบการณ์ที่ต้องได้ลองสักหนึ่งครั้ง

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ - สำหรับสายธรรมชาติ ที่นี่คือสรวงสวรรค์ ทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์ สมุทรสาบใสๆและเมืองเล็กๆน่ารักน่าเอ็นดูอย่างลูเซิร์น หรืออินเทอร์ลาเคน ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาวก็สวยไม่แพ้กัน แถมยังเหมาะกับคนที่ถูกใจบรรยากาศแบบสงบสุข

ประเทศสเปน - แดนกระทิงดุที่มากไปด้วยสีสัน ทั้งวัฒนธรรมดั้งจมูกเดิม อาหารอร่อย และสถลาปัตยกรรมไม่เหมือนใคร ดังเช่นว่า มหาวิหารซากราดา แฟมิเลียในบาร์โลนา ที่แม้ว่าจะยังสร้างไม่เสร็จ แต่ก็ให้ความรู้สึกอลังการ

กรีซ - ประเทศที่ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคเทพเจ้ากรีก กับเมืองหลวงอย่างเอเธนส์ที่เต็มไปด้วยโบราณสถานอายุกว่าพันปี อย่างอะโครโพลิส และพาร์เธนอน หรือเปลี่ยนบรรยากาศไปพักแบบสบายๆที่เกาะซานโตรินีก็ได้เช่นเดียวกัน

อังกฤษ - ลอนดอนคือเมืองที่มีอะไรทำได้ทั้งวัน ตั้งแต่ดูเปลี่ยนเวรยามหน้าวัง ไปจนถึงล่องแม่น้ำเทมส์ชมทิวทัศน์หอพักนาฬิกาบิ๊กเบน หรืออยากสัมผัสความลึกลับของประวัติศาสตร์ต้องสโตนเฮนจ์

เนเธอร์แลนด์ - เที่ยวเมืองแห่งทุ่งทิวลิปและกังหันลมในช่วงใบไม้ผลิ สัมผัสบรรยากาศอันอบอุ่นในอัมเสตอร์ดัม เดินชมพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ หรือแวะไปบ้านลูกบาศ์กสุดเก๋ในรอตเตอร์ดัมก็เป็นอะไรที่ไม่ควรจะพลาด

เยอรมนี / เยอรมัน - ประเทศที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและทันสมัยได้อย่างลงตัว ชมปราสาทนอยชวานสไตน์ที่เหมือนหลุดจากนิทาน เดินเล่นในโคโลญน์ แวะชมซากกำแพงเบอร์ลิน หรือเที่ยวชมเมืองเล็กๆริมแม่น้ำได้แบบเพลิดเพลินๆ

ประเทศนอร์เวย์ - ถ้าเกิดใครหลงใหลธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ประเทศนอร์เวย์คือประเทศที่ต้องไปสักหนึ่งครั้ง ล่าแสงเหนือที่เมืองทอรมโซ ล่องเรือชมฟยอร์สุดอลังการ หรือขึ้นรถไฟฟลัมเพื่อชมทิวทัศน์ธรรมชาติสุดอัศจรรย์แบบพาโรนามา

ออสเตรีย - ออสเตรียคือเมืองแห่งเสียดนตรีและสโผลงปัตยกรรมที่สวยงาม ที่เวียนนาเต็มไปด้วยวังหรูหราอย่างเชินบรุนน์และฮอฟบวร์ก ส่วนใครที่ต้องการไปสายธรรมชาติ ก็สามารถหนีความวุ่นวายไปพักใจท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ได้เหมือนกัน



บทสรุป
ทวีปยุโรปนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลายของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ดั้งจมูกเดิมที่สุด ซึ่งที่ยุโรปมีทุกอย่างให้คุณเลือก ที่ทำให้การเดินทางในยุโรปเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และต้องหาโอกาสไปเยี่ยมสักหนึ่งครั้งในชีวิต โดยประเทศในยุโรปที่น่าสนใจ ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเทศ ไม่ได้มีแค่เพียงที่พวกเราแนะนำไปเท่านั้น ยังมีประเทศอื่นๆที่มีเสน่ห์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร รอให้คุณรอไปเที่ยวด้วยตนเอง
#2
เยอรมัน หรือเยอรมนี เป็นหนึ่งในประเทศฝั่งยุโรปที่มีเสน่ห์ทั้งด้านประวัติศาสตร์ที่มาอย่างยาวนาน และความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ปราสาทสุดคลาสสิกที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเทพนิยาย กระทั่งไปถึงเมืองทันสมัยอย่างเบอร์ลิน มิวนิก แฟรงก์เฟิร์ต และโคโลญ ซึ่งในแต่ละเมืองก็มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวจากยุคสงครามโลก สโผลงปัตยกรรมเก่าแก่จากอดีต หรือบรรยากาศของธรรมชาติที่เชิญให้หลงใหล อีกทั้งยังมีเทศกาลสุดยอดอย่าง Oktoberfest ที่สายเบียร์ไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ใครที่ต้องการออกทริป หรือไปเที่ยวเยอรมัน พวกเรามี 10 สถานที่ท่องเที่ยวเยอรมันที่คุณไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่งด้วย รับรองรับได้เลยว่าที่นี่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบปัญหาทุกสายเที่ยวได้อย่างลงตัวแน่นอน



ที่ท่องเที่ยวเยอรมัน เที่ยวช่วงไหน ก็สนุกได้ทุกฤดู
ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนก็สามารถเที่ยวสนุกได้ ด้วยเหตุว่าที่ท่องเที่ยวเยอรมันมีเสน่ห์ต่างกันไปในแต่ละฤดู ช่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยคือเดือนพ.ค.ถึงกันคุณยายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศกำลังดี แดดออกนาน เหมาะกับการเดินเล่น ชมเมือง ชมทิวทัศน์ และเที่ยวกลางแจ้นได้แบบเต็มที่ จำนวนมากที่ต้องการสัมผัสอากาศหนาวๆในธีมคริสต์มาสก็ต้องมาเดือนธันวาคม เนื่องจากทั้งเมืองจะประปิดไฟสวยงาม มีตลาดคริสต์มาสให้เดินเลือกจับจ่ายซื้อของแบบเพลิดเพลินๆหรือหากเป็นสายสกี ที่ชื่นชอบหิมะ ช่วงฤดูหนาวก็เหมาะมาก กล่าวได้นัยหนึ่งว่าเยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าท่องเที่ยว และสามารถมาได้ทุกฤดูกาล ขึ้นกับว่าคุณถูกใจบรรยากาศแบบไหนมากกว่า

รวม 10 ที่ท่องเที่ยวเยอรมันไปเที่ยวทั้งทีต้องห้ามพลาดเช็กอินที่นี่
หากมาเที่ยวเยอรมนีแล้วต้องการเก็บแลนด์มาร์กให้ครบ ต้องไม่พลาด 10 สถานที่ท่องเที่ยวเยอรมันที่ทั้งสวย คลาสสิก และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle)
ปราสาทสุดโรแมนติกท่ามกลางหุบเขาแอลป์ ที่สวยกระทั่งกลายเป็นแรงบันดาลใจของปราสาทดิสนีย์ ตัวอาคารเป็นสโผลงปัตยกรรมนีโอโกธิกผสมยุคกลาง ช่วงฤดูใบไม้ตกนับว่าเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะเหตุว่าปราสาทขาวจะตัดกับใบไม้สีแดงส้มได้อย่างลงตัว

ราชสำนักนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace)
พระราชสำนักฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียในเมืองมิวนิก กระโดดเด่นในด้านสถลาปัตยกรรมแบบประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษ ภายในมีพิพิธภัณฑ์ สวนขนาดใหญ่ และโชว์ของสะสมสุดล้ำค่าอีกมากมาย เหมาะสำหรับคนชื่นชอบผลงานศิลป์และประวัติศาสตร์เป็นที่สุด

วังซวิงเกอร์ (Zwinger Palace)
วังสไตล์บาโรกในเมืองเดรสเดน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวังแวร์ซาย ของประเทศประเทศฝรั่งเศส แม้ว่าจะเคยได้รับความเสียหายจากสงครามโลกมาแล้ว แต่ได้รับการบูรณะใหม่อย่างวยงงดงาม จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในจุดไฮไลต์ถ่ายภาพสุดอลังการของเยอรมนีเลยทีเดียว

ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle)
ปราสาทหินทรายสีแดงบนเนินเขา แลเห็นได้จากระยะไกล และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 แม้ว่าจะไม่ได้มีสภาพสมบูรณ์ 100% แต่ด้วยบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกคลาสสิก ก็ทำให้ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก

มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว (St. Bartholomew's Cathedral)
หนึ่งในโบสถ์สไตล์โกธิกกลางเมืองแฟรก์เฟิร์ต สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และผ่านการบูรณะมาหลายครา แต่ภายในยังคงงดงามด้วยศิลปะยุคกลาง และความสง่างามของหอสังเกตการณ์สูงกว่า 90 เมตรที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน

มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral)
วิหารทรงโดมใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน กระโดดเด่นด้วยสโผลงปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างบาโรกและเรเนสซองส์ ภายในประดับด้วยงานแกะสลัก กระจกสี และยังสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์เมืองเบอร์ลินได้แบบรอบด้านเลยด้วย

กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall)
ซากประวัติศาสตร์ที่สำคัญจากยุคการศึกเย็นที่เคยแบ่งประเทศเยอมันออกเป็นตะวันออก - ตะวันตก ปัจจุบันนี้กลายเป็นจุดถ่ายภาพ และแกลเลอรีกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยงานศิลปะและกราฟิตี้ที่หลากหลาย ที่สะท้อนถึงความอิสระและสันติภาพที่ได้กลับคืนมา

มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral)
หนึ่งในแลนด์มาร์กสุดอลังการแห่งเมืองโคโลญ ที่ใช้เวลาก่อสร้างมายาวนานกว่า 600 ปี ตัววิหารมีความมากถึง 157 เมตร มีหน้าต่งกระจกสีขนาดใหญ่ และงานประติมากรรมสไตล์โกธิกที่ละเอียดทุกมุมให้เข้าชม เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบงานสโผลงปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ ที่นี่คือคำตอบที่ดีเลยที่จะแวะมาเที่ยวชม

ราชสำนักซ็องซูซี (Sanssouci Palace)
วังฤดูร้อนของพระผู้เป็นเจ้าฟรีดริชที่ 2 ในเมืองพอทส์ดัม ออกแบบในสไตล์โรโคโค่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาพร้อมสวนที่สวยงามแบบรอบด้าน ชื่อ Sanssouci แปลได้ว่า "ไม่มีกังวล" ซึ่งเหมาะกับบรรยากาศในการเที่ยวพักที่นี่อย่างแท้จริง

ประตูบรันเดนบวร์ก (Brandenburg Gate)
ประตูเมืองเก่าแก่สไตล์กรีกโรมันที่อยู่ตรงใจกลางเมืองเบอร์ลิน เคยเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกในยุคโซเวียด และตอนนี้กลายเป็นจุดศูนย์รวมใจของการรวมชาติ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด ถ้าหากได้มาเยี่ยมประเทศเยอรมนีแล้ว

บทสรุป
แม้พูดว่าเยอรมนีเป็นประเทศที่มีความสวยงาม มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายยุคสมัย กระทั่งเป็นที่น่าท่องเที่ยวแล้วละก็คงไม่เกินจริงแน่นอน เพราะเหตุว่าที่เยอรมนีมีทั้งปราสาท ราชสำนัก โบสถ์และสถานที่สำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง ซึ่งสถานที่พวกนี้ล้วนดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งโลกให้มาเยี่ยมอยู่เสมอเวลา ไม่ว่าจะฤดูกาลใดก็ตาม ก็ได้รับความนิยมและความประทับใจจากการท่องเที่ยวเสมอ ท้ายสุดเลยที่เที่ยวในเยอรมนีก็ยังไม่หมดเพียงแค่ที่พวกเราได้แนะนำไปเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายสถานที่ให้คุณได้ไปเยี่ยม ถ้ามีโอกาสได้ไปเยอรมนี หรือกำลังวางแผนไปออกทริปเยอรมนีกันอยู่ นอกเหนือจากไปเยี่ยมสถานที่แลนด์มาร์กแล้ว ก็อย่าลืมไปสำรวจที่เที่ยวอื่นๆกันด้วย
#3


การไปเที่ยวอิตาลีเดือนพฤศจิกายน อาจไม่ใช่ช่วงยอดนิยมเหมือนฤดูร้อนหรือช่วง High Season มากนัก แต่ในช่วงเดือนนี้กลับมีเสน่ห์เฉพาะบุคคลที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ เพราะเหตุว่าช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อระหว่างฤดูใบไม้หล่นและฤดูหนาว เมืองต่างๆจึงเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อย สถานที่ท่องเที่ยวไม่แออัด บรรยากาศเหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบอิตาลีแท้ๆและที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายที่พักและตั๋วเครื่องบินมักถูกลงกว่าเดิม ถึงแม้อากาศจะเริ่มเย็นและมีฝนโปรยปรายบางวัน แต่ถ้าเกิดเตรียมพร้อมพร้อม ก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบาย และได้ลิ้มลองอาหารตามฤดูกาลด้วย ได้แก่ เห็ดทรัฟเฟิลหรือเหล้าองุ่นใหม่จากไร่องุ่น อีกทั้งยังมีทิวทัศน์เมืองในโทนอบอุ่นของใบไม้เปลี่ยนสีให้เดินชมได้อย่างเพลิดเพลินใจ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ลงตัวมากสำหรับคนที่ต้องการท่องเที่ยวอิตาลีแบบเดิมๆได้ฟีลแบบไม่ต้องแย่งถ่ายภาพกับใคร ทำให้เดือนนี้เป็นอีกช่วงเวลาที่เที่ยวอิตาลีได้อย่างคุ้มค่าไม่แพ้ฤดูอื่น

เตรียม เที่ยวอิตาลีเดือนพฤศจิกายน ทำอย่างไรให้เที่ยวกันอย่างราบรื่น
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิในอิตาลีชอบมีการลดลงอย่างตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคเหนือที่อาจหนาวเย็นถึง 5–10°C ส่วนทางภาคกลางและทางตอนใต้จะมีอากาศที่อุ่นกว่านิดหน่อย การเตรียมพร้อมให้พร้อมสำหรับเที่ยวอิตาลีเดือนพฤศจิกายน จึงขาดสิ่งกลุ่มนี้ไปไม่ได้เลย

เสื้อแจ็คเก็ต / เสื้อกันหนาว - ควรจะพกเสื้อแจ็คเก็ตหรือโค้ทที่ให้ความอบอุ่นและกันลมได้เป็นอย่างดีมากด้วย เพราะเหตุว่าอากาศในช่วงเดือนพฤศจิกายนของอิตาลี ชอบหนาวเย็นในช่วงเช้าและกลางคืน

เสื้อผ้าหลายชั้น - ทางที่ดีควรจะเลือกสวมเสื้อหลายชั้นให้ปรับเปลี่ยนได้ง่าย แม้เจอวันที่อุ่นขึ้นก็สามารถถอดออกบางชั้นได้ทันที

เสื้อฝน / โค้ทกันน้ำ - การที่จะมีฝนตกในช่วงเดือนพฤศจิกายนไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องปกติด้วย ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรจะมีเนื้อกันฝนหรือโค้ทที่กันน้ำได้ในระดับหนึ่งติดตัวไว้ด้วยเสมอ

รองเท้ากันน้ำและใส่สบาย - เว้นแต่ฝนแล้ว อาจจะมีหิมะปนเปปลายๆมาบ้าง ทำให้คุณจำเป็นต้องต้องใส่รองเท้ากันน้ำหรือบูทที่กันน้ำได้ เพื่อที่คุณจะสามารถเดินเที่ยวในอิตาลีช่วงนี้ได้อย่างสบายๆ

ผ้าสำหรับพันคอ หมวก ถุงมือและถุงเท้าหนา - เครื่องใส่เพิ่มเติมที่จะช่วยทำให้คุณอบอุ่นขึ้นได้ และต้องกับการเที่ยวอิตาลีในบางพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น มิลาน โบโลญญา หรือเวนิส เพื่อป้องกันลมหนาวที่แรงและเย็นจัด

นอกจากนั้นแล้วควรจะจัดแจงร่ม หรือใช้กระเป๋าที่สามารถกันน้ำไว้ด้วย เพื่อป้องกันฝนที่อาจเจอได้แบบไม่คาดฝัน รวมทั้งระหว่างการท่องเที่ยวก็ควรจะต้องเช็กสภาพอากาศในทุกวันไว้ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากว่าในช่วงนี้จะมีสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เพื่อให้คุณสามารถแต่งตัวได้เหมาะสม กับสภาพอากาศที่ต้องเจอ



5 เมืองน่าเที่ยวอิตาลีเดือนพฤศจิกายน ชมเสน่ห์เฉพาะบุคคลของแต่ละท้องถิ่น
ถ้าหากคุณถูกใจการเที่ยวอิตาลีแบบสบายๆไม่ต้องไปแย่งที่ ไปเจอคนเยอะแยะ การเที่ยวอิตาลีเดือนพฤศจิกายนจะเป็นอะไรที่ตอบปัญหาเป็นอย่างมาก ทั้งอากาศเย็นที่แสนโรแมนติก และนักท่องเที่ยวน้อยลงอย่างมองเห็นได้ชัด และนี่คือ 5 เมืองแนะนำที่น่าเที่ยวที่สุดในช่วงนี้

โรม (Rome) - เมืองหลวงสุดคลาสสิกที่คุณจะได้เดิมชมโบราณสถานมีชื่ออย่างโคลอสเซียม และน้ำพุเทรวีอย่างสบายๆโดยไม่ต้องแทรกเสียงกับหมู่คนหรือนักท่องเทียน อากาศที่เย็นกำลังดีเหมาะกับการเดินเล่น และยังได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่ยุติธรรมชาติ

ฟลอเรนซ์ (Florence) - เมืองแห่งศิลป์และสถลาปัตยกรรมสุดยอด ที่จะเพิ่มความโรแมนติกให้มากเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวที่น้อยลง ทำให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆได้สะดวกมากขึ้น พร้อมทั้งเดินชมเมืองเก่าท่ามกลางอากาศเย็นสบายและชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีได้

เวนิส (Venice) - เมืองลอยน้ำที่โรแมนติก และยังเป็นหนึ่งในเมืองยอดนิยมที่น่าเที่ยว เนื่องจากคุณสามารถล่องเรือกอนโดลาได้แบบไม่แออัด และถ่ายภาพสวยๆได้สบาย แต่ต้องระวังเรื่องน้ำหลากที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย ควรจะจัดแจงรองเท้ากันน้ำและเช็กพยากรณ์อากาศล่วงหน้าก่อนไปเสมอ

เนเปิลส์ (Naples) - เมืองทางตอนใต้ของอิตาลีที่อากาศยังไม่หนาวจัด เหมาะกับคนที่ไม่ถูกใจความหนาวเย็นมาก ที่เมืองเนเปิลส์นั้นขึ้นชื่อเรื่องของอาหารอร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิซซ่าเจ้าตำรับ และยังอยู่ใกล้เมืองโบราณปอมเปอีที่เที่ยวได้แบบไม่ต้องแย่งใครอีกด้วย

โบลซาโน (Bolzano) - เมืองในแคว้นไทโรลใต้ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและเทือกเขาโดโลไมต์ ยิ่งในเดือนพฤศจิกายนคุณจะได้มองเห็นภูเขาสลับสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี และยอดเขาที่เริ่มปกคลุมด้วยหิมะ เป็นหนึ่งในปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติเลยทีเดียว

บทสรุป
ถึงแม้เดือนพฤศจิกายนจะไม่ใช่ช่วงที่น่าเที่ยวมากเท่าไรนัก แต่ถ้าหากคุณต้องการบรรยากาศแบบสบายๆเดินเล่นชิลไม่ต้องไปแออัดกับหมู่คนหรือนักท่องเที่ยว เดือนนี้จะกลายเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวในสไตล์นี้ เนื่องจากคุณสามารถรับชมบรรยากาศที่เงียบสงบ และเที่ยวได้ในราคาไม่แพง เรียกได้ว่าช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาทองของการเที่ยวอิตาลีที่ไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่ง
#4
ถ้าเกิดพูดถึงโบรกเกอร์ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในกลุ่มนักเทรดไทย ZFX Thailand หรือ Zeal Capital Market ต้องติดอันดับแน่นอน ด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น สเปรดต่ำ ค่าคอมมิชชั่นคุ้มค่า เลเวอเรจสูง ทำให้โบรกเกอร์นี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของเทรดเดอร์หลายคน แต่คำถามคือ ZFX ดีจริงไหม? ปลอดภัยหรือไม่? และเหมาะกับใคร? โดยพวกเราจะมาดูกันว่าอะไรที่ทำให้คุณเลือกที่จะเชื่อใจในการใช้โบรกเกอร์ได้อย่างถูกต้อง

ขั้นแรกมาทำความรู้จักก่อนว่า ZFX อยู่ภายใต้การบริหารของ Zeal Capital Market Limited ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับเอกสารสิทธิ์จาก FCA (Financial Conduct Authority - UK) และ FSC (Financial Services Commission - Mauritius) ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของความโปร่งใสและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ที่สำคัญ ZFX มีมาตรการแยกบัญชีเงินลูกค้า (Segregated Account) เพื่อให้แน่ใจว่าเงินของเทรดเดอร์จะถูกจัดเก็บแยกจากเงินของบริษัท ป้องกันปัญหาการนำเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ยิ่งไปกว่านี้ ZFX ยังให้บริการ MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุด ใช้งานง่าย รองรับทั้ง EA (Expert Advisor) และ Custom Indicators เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบที่ผิดพลาดสำหรับการออกออเดอร์ รับรองความแม่นยำให้คุณสร้างรายได้อย่างไม่จำกัด

อีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้ ZFX ได้รับความนิยมในไทย คือ ระบบฝาก-ถอนที่รองรับธนาคารไทยโดยตรง นักเทรดสามารถฝากเงินผ่าน Mobile Banking ได้ง่ายๆโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และเงินเข้าพอร์ตเร็วมากภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งสะดวกกว่าหลายๆโบรกเกอร์ที่ต้องผ่านช่องทางกลาง ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียม ZFX มีสเปรดที่ค่อนข้างต่ำ โดยยิ่งไปกว่านั้นบัญชี ECN ที่ให้สเปรดเริ่มเพียงแค่ 0.2 pips และมีค่าคอมมิชชั่นที่คุ้มค่า

อีกทั้งยังมีการเปิดให้ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) ฝึกหัดเทรดฟรี ซึ่งเหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่ต้องการเสี่ยงใช้เงินจริงอีกด้วย ซึ่งนับเป็นข้อดีอย่างมากที่เปิดโอสให้ได้ศึกษาวิธีการใช้งานไปพร้อม ทั้งนี้สำหรับนักเทรดที่เน้นเทรด Forex, ทองคำ, น้ำมัน และดัชนี ZFX นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากเพราะว่ามีเงื่อนไขการเทรดที่คุ้มค่าและการใช้คำสั่งการออกออเดอร์ได้อย่างเร็วทันใจไม่มีตกรถแน่นอน

เพราะเหตุใด ZFX Thailand ถึงเป็นตัวเลือกแรกของนักเทรดไทย? ส่องข้อดีที่คุณต้องทราบ

ถ้าหากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่ให้มากกว่าการเทรดทั่วๆไป ZFX Thailand อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบปัญหาคุณมากที่สุด ในยุคที่ตลาดฟอเร็กซ์มีการแข่งขันสูง ZFX ไม่ได้เน้นเพียงแค่การเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย แต่ยังให้ความสำคัญกับ "ประสบการณ์การเทรดที่จัดเต็ม" ตั้งแต่ต้นจนถึงจบ จุดเด่นของโบรกเกอร์นี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเทคนิค แต่คือ ความเข้าใจพฤติกรรมของนักเทรดไทย ซึ่งมองแค่เพียงบริการที่ให้สเปรดต่ำ แต่ก้าวไปไกลกว่านั้น ด้วยการออกแบบระบบบริการที่เน้นความสะดวก เร็วทันใจ และโปร่งใส

ที่สำคัญที่สุดคือการมีระบบบัญชีที่ยืดหยุ่น ตอบตอบสนองทั้งนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเริ่มอย่างปลอดภัย และเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือช่วยเทรดที่เหนือกว่า โบรกเกอร์นี้ยังมี ระบบวิเคราะห์ตลาดที่ลึกและแม่นยำ อัปเดตข่าวสารสารแบบเรียลไทม์ และมีเครื่องมือช่วยตัดสินใจที่ทันสมัย ทำให้คุณไม่พลาดทุกโอกาสการได้กำไร

นอกเหนือจากนั้นยังมี ทีมซัพพอร์ตที่ให้บริการแบบมืออาชีพ พร้อมให้คำแนะนำแบบคุ้นเคย ไม่ใช่เพียงแค่ตอบคำถามทั่วๆไปแต่สามารถช่วยแนะแนวทางการเทรดได้จริง ZFX ไม่ได้มองดูตนเองเป็นเพียงแค่โบรกเกอร์ แต่เป็น พาร์ทเนอร์ของนักเทรด ที่ช่วยส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเติบโตในตลาดได้อย่างมั่นคง และนี่คือเหตุผลว่าเพราะอะไร ZFX ถึงเป็น "โบรกเกอร์ที่ใช่" สำหรับเทรดเดอร์ไทยยุคใหม่ที่ต้องการมากกว่าเพียงแค่แพลตฟอร์มซื้อขายทั่วๆไปนั่นเอง



ZFX Thailand มีบัญชีอะไรบ้าง? เลือกให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ

การเลือกประเภทบัญชีเทรดนับว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เพราะว่ามันส่งผลต่อทุกอย่าง ตั้งแต่ทุนการเทรด กลยุทธ์ที่ใช้ ไปกระทั่งถึงกำไรที่คุณจะได้รับ ZFX Thailand เข้าใจดีว่าเทรดเดอร์แต่ละคนมีสไตล์การเทรดที่แตกไม่เหมือนกัน จึงออกแบบบัญชีให้มีทางเลือกที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งสายมือใหม่ที่ต้องการเริ่มแบบไม่สลับซับซ้อน และสายโปรที่ต้องการค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด บัญชีแรกที่เหมาะสำหรับคนเริ่มต้นคือ บัญชี Standard STP ซึ่งมีข้อตกลงการเทรดที่เรียบง่าย ฝากขั้นต่ำไม่สูง และไม่คิดค่าคอมมิชชั่น เพียงแค่ดูสเปรดให้เป็นก็ผลกำไรได้แล้ว

ส่วนหากคุณเป็นนักเทรดที่มองหาค่าธรรมเนียมต่ำสุดๆและความเร็วในการส่งคำบัญชาระดับที่ถือว่าสูง บัญชี ECN คือคำตอบ ด้วยเหตุว่าใช้การเชื่อมต่อโดยตรงไปยังตลาดกลาง ทำให้ได้ราคาที่แทบจะไม่มีส่วนต่าง (Raw Spread) แต่ต้องแลกเปลี่ยนมากับค่าคอมมิชชั่นต่อออเดอร์ที่ถูกหักไป ส่วนสายใหญ่ที่ต้องการข้อแม้สุดพิเศษ บัญชี VIP ก็เป็นอีกตัวเลือกที่คุ้ม เพราะว่ามีทั้งสเปรดต่ำ ค่าคอมฯ พิเศษ และบริการแบบพรีเมียม

ทั้งนี้การเลือกบัญชีต้องพิจารณาจาก ขนาดพอร์ต, กลยุทธ์ที่ใช้ และทุนที่คุณรับได้ ด้วยเหตุดังกล่าวก่อนสมัคร ถามตัวเองก่อนว่าคุณเป็นเทรดเดอร์สายไหน แล้วเลือกบัญชีให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ ซึ่งที่นี่มีครบให้คุณได้ใช้งานอย่างคล่องมือทีเดียว บอกได้เลยว่าคุณจะติดใจกระทั่งไม่ต้องการจะย้ายไปใช้โบรกเกอร์อื่นกันเลยทีเดียว
#5
การเทรด Forex ที่เคลื่อนที่เร็วและเต็มไปด้วยโอกาส การมี เครื่องมือช่วยเทรด Forex ฟรี ที่สามารถปรับแต่งได้ตามสไตล์ของแต่ละคนนับว่าเป็นข้อได้เปรียบเทียบสำคัญ ซึ่ง EA Thailand ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของเทรดเดอร์ไทย ด้วยระบบที่รองรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ โดยจุดเด่นที่ทำให้ EA ตัวนี้แตกแตกต่างจากเครื่องมือทั่วๆไปคือ "ความยืดหยุ่น" และ "ความง่ายในการใช้งาน" ที่ช่วยทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

EA Thailand ไม่ใช่เพียงแค่บอทเทรดทั่วๆไป แต่ถูกพัฒนาให้ตอบปัญหาการใช้งานของนักเทรดชาวไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รองรับการตั้งค่าที่ละเอียด สามารถระบุกลยุทธ์ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Scalping, Swing Trading หรือหากแม้แต่ Martingale ระบบอัจฉริยะของมันสามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดแบบเรียลไทม์ ปรับคำบัญชาซื้อขายอัตโนมัติตามข้อตกลงที่ตั้งไว้ ทำให้ลดความผิดพลาดจากอารมณ์ของมนุษย์ และเพิ่มโอกาสในการทำเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งจุดแข็งของ EA Thailand คือ อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ หากแม้ไม่มีพื้นฐานด้านโค้ดดิ้งหรือการตั้งค่าสลับซับซ้อนก็สามารถเริ่มได้ในไม่กี่คลิก ตัว EA มาพร้อมคู่มือและคำแนะนำอย่างละเอียด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าและทดลองกลยุทธ์ต่างๆได้ทันที ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 ได้อย่างราบรื่น

สุดท้ายแล้ว EA Thailand ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือช่วยเทรด แต่เป็นเหมือนผู้ช่วยที่ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายและมีความแม่นยำมากขึ้น ใครที่กำลังมองหา EA ที่ยืดหยุ่น ใช้งานง่าย และช่วยทำให้การเทรดเป็นไปอย่างลื่นไหล ซึ่งเรียกได้ว่านี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่คุณไม่ควรจะมองดูข้าม

เครื่องมือช่วยเทรด Forex ฟรี คืออะไร และช่วยลดความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างไร?

เครื่องมือช่วยเทรด Forex ฟรี นับว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักเทรดจำนวนมากมักพบเจอกับปัญหาความไม่แน่นอนของตลาด การเคลื่อนไหวของราคาแบบคาดเดาไม่ได้ รวมทั้งอารมณ์ที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจในการเทรด ซึ่งนี่คือจุดที่เครื่องมือพวกนี้เข้ามาช่วย ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างฉลาดเฉลียว

เครื่องมือช่วยเทรดในตลาดนั้นมีหลายประเภท ตั้งแต่อินดิเคเตอร์วิเคราะห์ตลาด อย่าง Moving Average, RSI, MACD ที่ช่วยทำให้เทรดเดอร์สามารถอ่านแนวโน้มของตลาดได้ง่ายขึ้น ไปจนถึง EA (Expert Advisor) หรือบอทเทรดอัตโนมัติ ที่สามารถเปิด-ปิดออเดอร์ตามข้อตกลงที่ตั้งไว้โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา บางเครื่องมือยังให้ สัญญาณเทรดอัตโนมัติ (Forex Signals) ที่แจ้งให้ผู้ใช้รู้ถึงโอกาสการเข้าซื้อหรือขายตามกลยุทธ์ที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว

ในด้านของการลดความเสี่ยง เครื่องมือช่วยเทรดมีส่วนช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์ ดังเช่น การใช้ ระบบแจ้งเตือนแนวรับ-แนวต่อต้าน เพื่อป้องกันการเข้าเทรดผิดจังหวะ หรือ การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit อัตโนมัติ ที่ช่วยทำให้สามารถระบุขอบเขตการขาดทุนและเป้าหมายกำไรได้อย่างรัดกุม ทำให้ไม่ต้องพบเจอกับการขาดทุนหนักเพียงแค่เพราะเหตุว่าพลาดการควบคุมความเสี่ยง

อีกข้อดีของเครื่องมือช่วยเทรด Forex คือการเพิ่มความแม่นยำในการเทรด เทรดเดอร์สามารถใช้ เครื่องมือ Backtesting เพื่อลองทดลองกลยุทธ์ย้อนหลังกับข้อมูลในอดีต ช่วยทำให้มีความเห็นว่ากลยุทธ์ที่ใช้มีประสิทธิภาพหรือไม่ก่อนนำมาใช้จริง รวมถึง ระบบบริหารจัดการเงินทุน ที่ช่วยแบ่งรูปร่างเงินลงทุนอย่างเหมาะสม ลดโอกาสการล้างพอร์ตจากการใช้ Leverage มากเกินไป

เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้การลงทุนมีแบบแผน มีวินัย และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ เมื่อใช้อย่างถูกต้อง มันจะกลายเป็นเหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่ช่วยทำให้การเทรดของคุณเป็นระบบมากขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณอยู่รอดในตลาด Forex ได้อย่างดีทีเดียว



เครื่องมือช่วยเทรด Forex ฟรี ต้องมากแค่ไหนสำหรับนักเทรด?

เครื่องมือช่วยเทรด Forex ฟรี กลายเป็นสาระสำคัญที่ช่วยทำให้เทรดเดอร์สามารถต่อกรกับตลาดได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ในขณะที่บางคนคิดว่าเป็นตัวช่วยเสริมที่ทำให้พวกเราไม่จำเป็นจะต้องต้องใช้ก็ได้ แต่ในความเป็นจริง การมีเครื่องมือที่ดี เปรียบเหมือนการมี เข็มทิศนำทาง ที่ช่วยทำให้การเดินทางในตลาดการเงินเป็นไปอย่างราบรื่นและลดโอกาสในการตัดสินใจผิดพลาดได้อย่างน่าอัศจรรย์

สิ่งที่ทำให้เครื่องมือช่วยเทรดมีความสำคัญ คือมันช่วยทำให้เทรดเดอร์สามารถ แลเห็นโอกาสที่อาจมองข้ามไปด้วยตาเปล่า เป็นต้นว่า อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ช่วยกำหนดแนวโน้มตลาด จุดกลับตัว หรือหากแม้แต่ระดับแนวรับแนวต้านทานที่สำคัญ ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นจะต้องต่อการตัดสินใจซื้อขาย เครื่องมือพวกนี้ช่วยทำให้การวิเคราะห์แม่นยำขึ้น ลดความเสี่ยงจากการเทรดโดยใช้เพียงแค่ "ความรู้สึก" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดหลักของนักลงทุนมือใหม่

สำหรับนักเทรดที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก เครื่องมือพวกนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ช่วยทำให้พวกเขาสามารถ ทำความเข้าใจกับโครงสร้างตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินไปกับซอฟต์แวร์ราคาแพง อาทิเช่น ระบบแจ้งเตือนสัญญาณเทรดที่ช่วยพูดว่าควรจะเข้าออเดอร์เมื่อใด หรือบอทเทรด (EA) ที่สามารถช่วยบริหารคำบัญชาซื้อขายให้เป็นระบบโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา สิ่งกลุ่มนี้ช่วยลดภาระหน้าที่ในการวิเคราะห์และเพิ่มความแม่นยำในการวางแผนการลงทุน

ยิ่งไปกว่านี้ เครื่องมือกลุ่มนี้ยังช่วยทำให้ การบริหารความอาเสี่ยงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่า Stop Loss หรือ Take Profit อัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสขาดทุนหนัก หรือถึงแม้แต่การใช้เครื่องมือคำนวณขนาดล็อตเทรด (Position Sizing) เพื่อให้สามารถควบคุมความเสี่ยงได้ดียิ่งกว่าเดิม นักเทรดที่มีวินัยในการใช้เครื่องมือกลุ่มนี้ชอบอยู่รอดในตลาดได้ยาวนานกว่าผู้ที่เทรดแบบไม่มีแบบแผน ซึ่งจะก่อให้พอร์ตของพวกเรานั้นเติบโตได้ในทุกจังหวะของตลาดแบบไม่พลาดเทรนสำคัญ
#6


ถ้าเกิดคุณเคยรู้สึกว่า การใช้ EA เทรดอัตโนมัติคือการปล่อยให้บอทจัดการทุกอย่างจนถึงควบคุมอะไรไม่ได้ ถึงเวลาที่ต้องทำความรู้จักกับ ea semi auto หรือ ระบบเทรดครึ่งหนึ่งอัตโนมัติ ที่ให้ความสมดุลระหว่าง ความเฉลี่ยวฉลาดของซอฟต์แวร์กับการตัดสินใจของเทรดเดอร์ ซึ่ง EA ประเภทนี้ไม่ได้ทำงานเอง 100% แบบ EA Auto Trade แต่จะช่วย วิเคราะห์ตลาด, ส่งสัญญาณเข้าออก และช่วยบริหารความเสี่ยง โดยที่คุณยังเป็นคนควบคุมออเดอร์เอง ดังเช่น ถ้าเกิดระบบมองเห็นโอกาสที่ดีในการเข้าเทรด มันชัดเจนเตือนหรือเปิดออเดอร์ให้บางส่วน แล้วให้คุณเป็นคนตัดสินใจว่าจะปรับแต่ง Lot Size, ตั้ง Stop Loss หรือถือออเดอร์ไปจนถึงเป้าหมายหรือไม่

ข้อดีของการเทรดแบบผสมมือช่วยคือ คือลดภาระหน้าที่ในการเฝ้ากราฟ โดยที่คุณยังสามารถระบุแผนการเทรดได้เอง ไม่ต้องกลัวว่าบอทจะพาพอร์ตล้างเนื่องจากมันไม่ใช่ระบบที่เปิดออเดอร์แบบไม่มีการควบคุม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการตัวช่วย แต่ไม่ต้องการปล่อยให้บอทเทรดแทนทั้งหมด ยิ่งหากคุณมีประสบการณ์เทรดอยู่แล้ว

การเทรดลักษณะครึ่งใช้มือแบบนี้จะช่วยทำให้การเทรดเป็นระบบมากขึ้น ลดความผิดพลาดจากอารมณ์ และช่วยทำให้คุณมีเวลาดูตลาดน้อยลงแต่ยังได้กำไรได้เหมือนเดิม เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นและฉลาดหลักแหลมกว่าระบบอัตโนมัติทั่วๆไป เพราะว่าให้คุณมีอำนาจตัดสินใจเองในทุกจังหวะ

ea semi auto คืออะไร? แตกต่างจาก EA Auto Trade อย่างไร?

ถ้าหากพูดถึง EA เทรดเดอร์หลายคนอาจนึกถึงบอทเทรดที่ทำงานแทนคนแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว EA ไม่ได้มีเพียงแค่แบบเดียว เนื่องจากยังมี ea semi auto หรือระบบเทรดครึ่งอัตโนมัติที่ให้คุณ ควบคุมการเทรดได้เองบางส่วน ไม่เหมือนกับ EA Auto Trade ที่ปล่อยให้บอททำงานทุกอย่าง โดยการใช้วิธีนี้จะมีผลให้พวกเราสามารถสแกนหาสัญญาณเข้าออก, แจ้งเตือนโอกาสเทรด หรือหากแม้แต่เปิดออเดอร์บางส่วน ให้เทรดเดอร์เป็นคนตัดสินใจเองว่าจะจัดการกับออเดอร์นั้นอย่างไร อย่างเช่น จะปิดกำไรตอนไหน ปรับ Lot Size อย่างไร หรือจะเลื่อน Stop Loss ตามเทรนด์ดีไหม

ความแตกต่างสำคัญคือ การเทรดครึ่งอัตโนมัติยังให้คุณมีอำนาจควบคุมพอร์ตของตนอยู่ ไม่เหมือน EA Auto Trade ที่มักใช้ข้อจำกัดที่ตั้งไว้ล่วงหน้าแบบคงที่และเทรดไปตามกลยุทธ์อัตโนมัติ ซึ่ง EA Auto จะเป็นการช่วยลดภาระหน้าที่การตัดสินใจและทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ข้อเสียคือถ้าเกิดตลาดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ยกตัวอย่างเช่น ข่าวสารแรงๆหรือความผันแปรสูง EA อาจตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย
ในขณะที่รูปแบบ Semi Auto ให้ความยืดหยุ่นมากกว่า เทรดเดอร์ยังสามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ตามสถานการณ์ แต่ก็ต้องมีส่วนร่วมในการติดตามตลาดอยู่บ้าง สรุปง่ายๆEA Auto Trade เหมาะกับคนที่ต้องการให้ระบบทำงานแทนทั้งหมด ส่วน Semi Auto เหมาะกับคนที่ต้องการตัวช่วย แต่ยังต้องการมีสิทธิ์ตัดสินใจเอง

ถ้าหากคุณต้องการเทรดแบบเป็นระบบ ลดข้อผิดพลาดจากอารมณ์ ซึ่งบอกได้เลยว่าการเทรดลักษณะนี้จะทรงประสิทธิภาพอย่างมากสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ และจะช่วยทำให้ทำเงินได้อย่างไม่พลาดเป้า เนื่องจากคุณจะสามารถแทรกแซงวิธีการแก้ไม้ไปจนถึงวิธีการออกออเดอร์ตามกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์ โดยนักเทรดบางคนก็อาจมีการกลับวิธีการใช้ได้อย่างหลากหลายต่างกันไป อยู่ที่กลยุทธ์ไปจนถึงความยืดหยุ่นของเครื่องมือด้วยว่าจะมีการสนับสนุนกันหรือไม่

ea semi auto ดีจริงไหม? ข้อดี-ข้อเสียที่ต้องทราบก่อนใช้

ea semi auto นับว่าเป็นเครื่องมือเทรดที่หลายคนเริ่มให้ความสนใจ เพราะว่ามันช่วยทำให้เทรดเดอร์มีตัวช่วยวิเคราะห์ตลาดโดยไม่ต้องปล่อยให้ระบบทำงานเองทั้งหมด แต่คำถามคือ มันดีจริงไหม และเหมาะกับใคร? ข้อดีแรกคือมันทำให้การเทรดมีระบบระเบียบมากขึ้น ระบบสามารถ ช่วยกรองสัญญาณ หาจุดเข้าออกที่แม่นยำ และแจ้งเตือนเทรดเดอร์ล่วงหน้า ลดความเสี่ยงจากการเทรดตามอารมณ์ ได้แก่ การรีบเข้าออเดอร์เนื่องจากกลัวพลาดโอกาส หรือถือออเดอร์นานเกินไปเนื่องจากโลภ สิ่งนี้ช่วยทำให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้มีประสิทธิภาพขึ้น ยิ่งกว่านั้นยังเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเฝ้ากราฟทั้งวัน ด้วยเหตุว่าระบบจะช่วยคัดเลือกกรองจังหวะสำคัญให้ เทรดเดอร์เพียงแค่รอพิจารณาและตัดสินใจเทรดเท่านั้น เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆในการจับจังหวะที่มีความนัยสำคัญ

แต่ถึงอย่างนั้นการเทรดครึ่งหนึ่งอัตโนมัติก็ไม่ใช่เครื่องมือที่เหมาะกับทุกคน ข้อเสียหลักคือ มันยังต้องอาศัยการตัดสินใจของมนุษย์ ซึ่งหมายความว่าถึงระบบแจ่มแจ้งเตือน แต่สุดท้ายคุณยังต้องพิจารณาเองว่าจะเข้าเทรดหรือไม่ หากคุณไม่มีพื้นฐานการเทรดมากพอ หรือไม่เข้าใจกลยุทธ์ที่ระบบใช้ คุณอาจเลือกตัดสินใจผิดพลาดและทำให้ขาดทุนได้ง่าย นับเป็นเรื่องที่อันตรายพอควร เนื่องจากว่าสุดท้ายแล้วรูปแบบของตลาดจะมีวิธีการเล่นเกมเพื่อจัดการในแต่ล่ะกลยุทธ์ของเทรดเดอร์เสมอ ทำให้การเฝ้าด้วยมนุษย์จะได้เปรียบเทียบในข้อนี้

อีกจุดที่ต้องระวังคือ EA เทรดกึ่งมือ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกสถานการณ์ มันอาจช่วยทำให้การเทรดแม่นยำขึ้น แต่ไม่ได้การันตีว่าจะได้กำไรได้เสมอ ถ้าหากตั้งค่าระบบไม่ดี หรือใช้กับตลาดที่มีความแปรผันสูง ก็อาจเจอภาวการณ์ Drawdown ที่เอาจริงเอาจัง เพราะฉะนั้น ก่อนใช้ EA เทรดครึ่งหนึ่งอัตโนมัติ ควรจะทดลองกับบัญชีเดบด ศึกษากลยุทธ์ให้ดี และเลือกเครื่องมือที่มีความน่าวางใจ เท่านี้คุณก็จะสามารถใช้ EA ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และช่วยทำให้การเทรดของคุณส่งผลดีเพิ่มขึ้น