(https://ram2ecomadm.ram-ds.com/data/img/shop1/product/product68_800.jpg)
โรงพยาบาลรามคำแหง 2 มีบริการฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัด (https://ram2mart.ram-ds.com/product/detail/18/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94-Shingrix-2-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%A1.html) (Shingles Vaccine) เพื่อป้องกันการเกิดโรคงูสวัด ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Varicella-Zoster ที่เคยทำให้เกิดอีสุกอีใสในวัยเด็ก โรคงูสวัดจะทำให้เกิดผื่นที่มีอาการปวดแสบปวดร้อน และอาจมีอาการปวดเรื้อรังหลังการติดเชื้อ
บริการฉีดวัคซีนงูสวัดของโรงพยาบาลรามคำแหง 2 มีรายละเอียดดังนี้:
1. วัคซีนที่ใช้: โรงพยาบาลมีการใช้วัคซีนที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพ ซึ่งอาจรวมถึงวัคซีนชนิดสดและวัคซีนชนิดฆ่าเชื้อที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันการเกิดโรค
2. กลุ่มเป้าหมาย: วัคซีนงูสวัดมักแนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคงูสวัดและภาวะแทรกซ้อนที่ตามมา
3. ขั้นตอนการฉีดวัคซีน: ก่อนการฉีดวัคซีน ผู้รับบริการจะได้รับคำปรึกษาจากแพทย์หรือพยาบาลเกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงของวัคซีน รวมถึงการตรวจสอบประวัติสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถฉีดวัคซีนได้
4. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น: การฉีดวัคซีนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเบาๆ เช่น อาการเจ็บที่ตำแหน่งที่ฉีด ปวดศีรษะ หรือมีไข้เล็กน้อย ซึ่งมักจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
5. การดูแลหลังการฉีดวัคซีน: ผู้รับบริการควรติดตามอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ หากมีอาการผิดปกติหรืออาการไม่ดีขึ้น ควรติดต่อโรงพยาบาลเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
การฉีดวัคซีนงูสวัดถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในการป้องกันโรคที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปและมีความเสี่ยง
หากคุณสนใจใช้บริการฉีดวัคซีนงูสวัดที่โรงพยาบาลรามคำแหง 2 สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลหรือผ่านช่องทางการติดต่ออื่นๆ ที่โรงพยาบาลจัดเตรียมไว้เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร